วิธีการถนอมอาหาร นับเป็นวิธีที่ปฏิบัติมาอย่างยาวนาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยืดอายุอาหารไม่ให้เน่าบูดและเก็บไว้รับประทานได้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยมีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับความชอบ รวมถึงความเหมาะสมของวัตถุดิบ และสำหรับใครที่นิยมเข้าครัวและยังไม่แน่ใจว่ามีวิธีเก็บรักษา หรือแปรรูปเนื้อสด ผัก และผลไม้อย่างไรบ้าง ลองมาติดตามเทคนิคดี ๆ ที่นำมาฝากคนรักการทำอาหารโดยเฉพาะ
1. การแช่แข็ง
วิธีสุดคลาสสิกที่ทุกครอบครัวน่าจะคุ้นเคย โดยการแช่แข็งคือการปรับลดอุณหภูมิของอาหารให้ต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส เพื่อยับยั้งปฏิกิริยาชีวเคมีในอาหาร และยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ เหมาะอย่างยิ่งกับการถนอมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น การจัดเก็บเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ ที่ควรหั่นเป็นชิ้นเท่า ๆ กัน จากนั้นบรรจุลงในถุงถนอมอาหารและแช่ภายในช่องแช่แข็ง อีกทั้งยังใช้ได้กับทั้งผักและผลไม้ เรียกได้ว่าเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทำได้กับทุกประเภทอาหารเลยทีเดียว
2. การตากแห้ง
นับเป็นวิธีง่าย ๆ และเหมาะกับอากาศร้อน ๆ ของบ้านเรา โดยวิธีตากแห้งเป็นการไล่ความชื้นออกจากอาหาร เพื่อไม่ให้จุลินทรีย์เติบโต เป็นผลทำให้อาหารไม่เน่าเสียง่าย โดยวิธีตากแห้งสามารถทำได้ทั้งผลไม้ เช่น กล้วยตาก ที่เพียงปอกเปลือกและผ่าครึ่งลูก จากนั้นให้นำตากแดดและบรรจุในภาชนะเพื่อรับประทานยามหิว นอกจากนี้ หลายครอบครัวยังนิยมตากของสด เช่น เนื้อหมู ที่นิยมใช้กับการทำหมูแดดเดียว เนื้อวัวที่มักนำมาทำเนื้อวัวตากแห้ง หรือแม้แต่ปลาที่นิยมนำมาทำปลาตากแห้ง เป็นต้น โดยวิธีทำให้แห้งคือการแล่วัตถุดิบเป็นชิ้นบาง ๆ ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก จากนั้นนำไปคลุกเกลือ และวางบนตะแกรงเพื่อตากแดด เทคนิคคือเมื่อตากจนแห้งแล้วไม่จำเป็นต้องเก็บภายในภาชนะที่มิดชิดมาก เนื่องจากจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้
3. การแช่อิ่ม
วิธีถนอมอาหารที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนชอบของหวาน และเป็นวิธียอดนิยมสำหรับการต่ออายุอาหารประเภทผักและผลไม้ เทคนิคคือการใช้ความหวานของน้ำตาลในการดึงน้ำที่อยู่ในผักและผลไม้ออก ในขณะเดียวกันความหวานของน้ำตาลจะค่อย ๆ ซึมเข้าไปในเนื้อผักและผลไม้ ทำให้เวลารับประทานจะได้รสชาติหวานสดชื่น ยิ่งเมื่อความหวานของน้ำเชื่อมได้ผสมกับรสชาติดั้งเดิมของผักผลไม้นั้น ๆ แล้ว ยิ่งให้รสชาติที่ลงตัว สำหรับตัวอย่างเมนูแช่อิ่มที่เห็นได้บ่อย ๆ ได้แก่ มะม่วงแช่อิ่ม พุทราแช่อิ่ม มะขามแช่อิ่ม มะยมแช่อิ่ม มะละกอแช่อิ่ม เป็นต้น
4. การเชื่อม
อีกหนึ่งวิธีถนอมอาหารที่มีน้ำตาลเป็นตัวช่วยยับยั้งจุลินทรีย์ เป็นผลทำให้อาหารที่่ผ่านการเชื่อมสามารถเก็บได้นานยิ่งขึ้น วิธีการทำก็ง่าย ๆ เพียงเคี่ยวน้ำตาลกับเนื้อผลไม้ที่ต้องการ จากนั้นรอสักระยะจนกว่าความหวานจะซึมเข้าเนื้อ จากนั้นบรรจุลงภาชนะอย่างมิดชิด โดยผลไม้ที่นิยมนำมาเชื่อม ได้แก่ กล้วย ลูกตาล สาเก มะยม พุทรา ฯลฯ โดยวิธีนี้นอกจากเป็นการยืดอายุอาหารแล้ว ยังเป็นการดัดแปลงรสชาติอาหาร เพื่อให้ได้รสชาติแปลกใหม่อีกด้วย
5. การดอง
การดองคือวิธียืดอายุอาหารที่สามารถทำได้ทั้งเนื้อสด ผัก รวมถึงผลไม้ โดยการดองแบ่งเป็นหลายประเภท นั่นคือ การดองเค็ม ที่ใช้เกลือและน้ำส้มสายชูต้มรวมกัน จากนั้นดองไว้ในภาชนะประมาณ 4-8 เดือน แม้จะนานหน่อยแต่รับรองว่าอร่อยคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีการดองหวาน ที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำตาล เกลือ และน้ำส้มสายชู เมื่อต้มเสร็จเรียบร้อยให้นำมาดองรวมกับผลไม้ จากนั้นทิ้งไว้ 2-3 วันก็สามารถนำออกมารับประทานได้
สำหรับใครที่ชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ หรือชอบครีเอทเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ อย่าลืมนำวิธีการถนอมอาหารเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อยืดอายุเนื้อสด ผัก และผลไม้ นอกจากนี้ยังได้เปลี่ยนรสชาติเดิม ๆ ให้มีความแปลกใหม่ที่อาจถูกใจยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
ช้อป Shopee 7.7 Mid Year Sale ส่งฟรีขั้นต่ำ 0 บาท พร้อมรับดีล 50% ทุกวัน ตั้งแต่ 25 มิถุนายน – 7 กรกฎาคมนี้! ช้อปคุ้มๆ กับคอลเลคชั่นสินค้าราคา 50 บาท ฟินกับ Flash Sale ไอเท็มฮอตและสินค้าแบรนด์ดังลด 50% ทุกวัน! พร้อมรับโค้ดส่วนลดมูลค่าสูงสุดถึง 777 บาท และ Coin Cashback สูงสุด 50%! ห้ามพลาดสินค้าแฟชั่นหลากหลายสไตล์ในราคาดีที่สุดกับ Fashion Mid Year Sale ช้อปแค่ไหนก็ส่งฟรีถึงบ้าน!